"วันนึง พี่ช่างซึ่งเป็นพนักงานบริษัทโทรมาบอกว่า บอสครับผมโดนรถชน แต่ไม่น่าเป็นอะไรมาก คิดว่าคงจะแค่ขาหัก แต่พอพี่เค้าไปถึง รพ. หมอกลับบอกข่าวร้าย ว่าต้องตัดขาออกนะ ตั้งแต่ หัวเข่าลงไป เราทราบเรื่อง เรารีบเดินทางไปที่ รพ. ทันที เพื่อดูว่าช่วยอะไรได้บ้าง หมอบอกว่า ตอนนี้กำลังใจสำคัญที่สุด แต่ติดเรื่องกองทุนทดแทนเงินไม่เพียงพอต่อการรักษานะ เราจะสำรองออกให้เค้าก่อน เพื่อให้เค้าสามารถทำการผ่าตัดได้ทัน เราบอกพี่ช่างว่า ไม่ต้องกังวลอะไร เรื่องลูก และ ครอบครัว ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ เราจะจัดการให้ทั้งหมด ขอแค่อย่าท้อใจ และ เราเชื่อว่า พี่เค้าจะต้องกลับมาใช้ชีวิตให้ปกติได้
หลังจากวันนั้น เราได้คุย กับพี่เค้าตลอด และ ทุกครั้ง เราจะบอกพี่เค้าว่า เราไม่ได้แจ้งประกันสังคมว่าพี่ลาออกนะ พี่ช่างยังมีชื่อเป็นพนักงานบริษัทเราอยุ่ และรอวันที่พี่กลับมาทำงานที่บริษัทนี้ ไม่ว่าจะตำแหน่งใดก็ตาม ยังมีที่ให้พี่ช่างเสมอ และคุยกันทุกครั้งพี่เค้ามักจะหัวเราะอย่างร่าเริง เหมือนว่าเรื่องที่เจอมาเป็นเรื่องเล็กน้อย เราได้เห็นความตั้งใจที่จะกลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนเดิมของพี่เค้าตลอด คนนึง ที่เมื่อก่อน มีอวัยวะทั้ง32 เดินไปไหนมาไหนได้ด้วยตนเองได้ เป็นเสาหลักเลี้ยงครอบครัว กลับต้องเริ่มฝึกใช้ไม้เท้า และบ่อยครั้งที่ต้องมีคนช่วย และต้องเข้าทำการผ่าตัดขาอีกถึง 4 ครั้ง เพื่อให้สามารถใส่ขาเทียมได้
เหตุการณ์นี้ผ่านมา เกือบครบ 2 ปีแล้ว วันนี้ตอนเช้า พี่ช่างคนนี้ มาหาเราที่ออฟฟิศ โดยไม่ได้บอกล่วงหน้า พร้อมกับหน้าตาที่ยิ้มแย้มเช่นเดิมเพิ่มเติมแค่ส่วนขาที่เป็นขาเทียม และบอกเราว่า ผมพร้อมกลับมาทำงานแล้วนะครับ ตอนนี้ ชีวิตผมกลับมาปกติแล้ว ผมบอก แน่นอน บริษัทนี้ยินดีต้อนรับการกลับมา"
หลังโพสต์ถูกแชร์ออกไป ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชมในทัศนคติของบอส ที่ทั้งมีน้ำใจไม่ทอดทิ้ง และให้โอกาสพนักงาน รวมทั้งนับถือในความใจสู้ของพี่ช่าง ที่ไม่ยอมแพ้ต่อความโชคร้าย หลายคนที่เคยเป็นลูกค้าต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ดีใจที่เคยใช้บริการกับที่นี่http://surticostura.com
|