นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย สองตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาล มาพูดคุยในรายการ โหนกระแส หลังจากที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นผู้นำตั้งโต๊ะแถลง เปิดตัวพรรคร่วมรัฐบาล 8 พรรค 313 เสียงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว เล่าถึงบรรยากาศการพูดคุย ประชุมกัน ของพรรคร่วมรัฐบาลที่นำโดยพรรคก้าวไกล โดยบอกว่า แนวทางของการวางนโยบายที่พรรคก้าวไกลวางมา เอาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่ได้เอาเรื่องของการแบ่งกระทรวงมาเป็นตัวตั้งเหมือนการเมืองยุคเก่า ซึ่งแต่ละนโยบายที่ถูกหยิบยกขึ้นมาหารือกัน เป็นไปในลักษณะกลางๆ ตรงไหนที่เราเห็นด้วยก็ว่ากันไป แต่ตรงไหนที่เราเห็นว่าอาจจะเกิดประเด็นทางการเมือง อันไหนที่เราเห็นว่าจะเป็นปัญหา เรากได้ท้วงติงไป ซึ่งทางก้าวไกลก็บอกว่า เรื่องไหนที่เห็นว่าเป็นประเด็นเขาก็ยินดีจะถอย
หมอชลน่านบอกว่า ตัวเลขของรัฐบาลที่เห็นว่าเข้มแข็ง คือประมาณ 300-310 ที่นั่ง หากเกินไปกว่านี้ จะเป็นไปตามวาทกรรมที่เคยเกิดขึ้นคือ เผด็จการรัฐสภา หากเราไปรุกล้ำฝ่ายตรวจสอบเกินไป มันก็อาจจะเกิดปัญหาขึ้นมาได้ ในกรณีที่มีคนบอกว่า ต้องรวมไปให้ได้ถึง 376 เสียง ก็ต้องถามว่า เราจะรวมไปขนาดนั้นเพื่ออะไร มันจะมีปัญหาอีกหลายประการตามมา
ตามหลักแล้วเมื่อผลการเลือกตั้งออกมา ฝ่ายเสรีประชาธิปไตยได้รวมกัน 25 ล้านเสียง จากทั้งหมด 39 ล้านเสียง ของประชาชนชาวไทยที่มาเลือกตั้งมันก็แสดงให้เห็นว่าฉันทามติ เสียงข้างมากของพี่น้องประชาชน โหวตเลือกใครเป็นรัฐบาล ต้องการให้ใครเป็นนายกฯ การเลือกนายกฯ ในสภา ก็ควรจะยึดหลักการนี้ เลือกคุณพิธาเป็นนายกฯ ซึ่งตนก็เชื่อว่า ส.ว.จำนวนหนึ่ง จะมายกมือโหวตเลือกคุณพิธา ตามครรลองประชาธิปไตย
นพ.ชลน่าน ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีข้อเรียกร้อง ไม่มีข้อแม้ ไม่มีการต่อรองเรื่องกระทรวง ต้องการแค่ผลักดันนโยบรรค ให้กลายเป็นนโยบายรัฐบาลให้ได้
ส่วนเรื่องที่ถูกถามอย่างมาก คือเรื่องแนวทางในการแก้ไข ม.112 ซึ่งเป็นเรื่องที่แต่ละพรรคมีความเห็นที่แตกต่างกัน ต้องหาเวทีกลาง เช่น เอาเข้าสภา มาพูดคุยกัน มาดูว่าอะไรที่เป็นปัญหา อะไรที่ควรรักษาไว้ การบังคับใช้กฎหมายนี้อย่างเกินเส้น เกินความพอดี เกิดปัญหาต่างๆ ก็ต้องไปว่ากันhttp://stintinovacanze.net
|