2 แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย ตอบทุกคำถาม "เศรษฐา" ยันไม่ได้ขายความกลัว แต่ขายความชัวร์ให้ประชาชน "แพทองธาร" ไม่สนวาทะกรรม ตอบครั้งสุดท้ายไม่จับมือรัฐประหาร
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และนายเศรษฐี ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ไลฟ์ผ่านช่องทางติ๊กต๊อก ตอบทุกคำถามที่ประชาชนคาใจ โดยมีนายคชาภา ตันเจริญ หรือมดดำ เป็นผู้ดำเนินรายการ และถามคำถามแทนประชาชนที่ส่งมาตามช่องทางต่างๆ
นายคชาภา ถามถึงปรากฎการณ์คนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าเกิน 90% นายเศรษฐา กล่าวว่า ถือเป็นปรากฎการณ์ที่ดี สะท้อนว่าการเมือง 8 ปีที่ผ่านมาแย่มากๆ จนคนออกมาใช้สิทธิถล่มทลายขณะที่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เซอร์ไพรซ์กับจำนวนผู้มาใช้สิทธิ และเห็นใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ต้องขอบคุณประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ และขอบคุณประชาชนที่เลือกพรรคเพื่อไทย
ส่วนที่กกต.ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ เพราะคนไม่มั่นใจในการทำหน้าที่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า บางคนชนะการเลือกตั้งมาหลักร้อย ดังนั้น ทุกคะแนนเสียงจึงมีค่ามาก นี่คือความจำเป็นว่าทำไมต้องออกไปใช้สิทธิมากๆ ด้านนายเศรษฐา กล่าวว่า สิทธินี้เป็นสิทธิที่มีค่ามากๆของคนไทยทุกคน ทั้งนี้ ทุกคนมีความเป็นห่วง กกต.ต้องเข้มงวด และดูแลให้มีการเลือกตั้งอย่างเป็นธรรมที่สุด
ส่วนอีก 6 วัน ถึงเวลาที่คนไทยทั้งประเทศจะตัดสินใจเลือก วันนี้ยังมีคนถามเรื่องการจับมือกับ 3 ป. จึงถามถึงความชัดเจนอีกครั้ง นายเศรษฐา ระบุว่า เราบอกไปแล้วว่า เรายึดโยงกับประชาชน ไม่เอารัฐประหาร พรรคเพื่อไทยไม่ต้องการอยู่ในวงจรวาทกรรมเหล่านี้ ขณะ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เราไม่จับมือกับฝ่ายเผด็จการแน่ แต่การจะจับมือกับพรรคใดนั้นเป็นเรื่องในอนาคตหลังการเลือกตั้ง เราต้องดูก่อนว่าผลออกมาอย่างไร แต่เรามีเกณฑ์ของเราว่าต้องเห็นด้วยกับนโยบายของเรา และนายกฯต้องมาจากพรรคเพื่อไทยเท่านั้น
ส่วนสมการ เพื่อไทย-ก้าวไกล เป็นไปได้หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เกิดขึ้นได้อยู่แล้ว เราไม่เคยรังเกียจฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกัน และกับพรรคก้าวไกลเราก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร เราเป็นพรรคฝ่ายค้านมาด้วยกัน ทำงานมาด้วยกัน แต่หลังการเลือกตั้งต้องรอดูเสียงของประชาชน เราต้องมาดูกันอีกครั้ง เช่นเดียวกับ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องนโยบายเราก็ต้องมาถกกันด้วย เพื่อให้เกิดความชัดเจนด้วย
เมื่อถามว่า ทุกคนพูดถึงจุดยืนเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า แน่นอนเราไม่ยกเลิกมาตรา 112 แต่เราต้องมาคุยกันในสภา เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และหากเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เราจะขอความเมตตาต่อศาล ว่ามีน้องๆและผู้เห็นต่างทางการเมืองหลายคนที่ติดอยู่ในนั้น ขอให้มีการปล่อยตัว และต้องมีการแก้ไขระเบียบ ด้านนายเศรษฐา ระบุว่า ถ้าเราเป็นรัฐบาลก็ต้องดูการประกันตัว เพื่อต่อสู้ได้อย่างเป็นธรรม
ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทยมีนโยบาย 10,000 บาท ใส่กระเป๋าดิจิทัล แต่มีคนบอกว่าเกิดขึ้นไม่ได้จริง นายเศรษฐา ระบุว่า ช่วง 8 ปีที่ผ่านมาเราอยู่ในหลุมดำของความยากจน ซ้ำโดนเรื่องโควิดอีก ทำให้เรายิ่งจมลึก ที่ผ่านมา รัฐบาลมีการพยายามช่วยด้วยการให้เงินทีละ 500-700 บาท ซึ่งเรามองว่า แบบนี้ไม่พอ เราจึงคิดที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจขึ้นมา เราปรึกษาทั้งฝ่ายกฎหมาย และธนาคารแห่งประเทศไทยแล้วขณะที่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อันดับแรกเมื่อพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เราจะลดค่าใช้จ่ายให้คนก่อนทันที ลดค่าน้ำ-ค่าไฟ ทันที และจะกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบ นโยบายของเราต้องเป็นนโยบายที่กินได้http://quebecbb.net
|