[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.5
โรงเรียนวชิรานุกูล
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป  
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
เมนูหลัก
ฝากข้อความ
ชื่อ :
ข้อความ

Close
:) :D :(
:o :p ;)
:| x( :~
(ตัวแสดงอารมณ์)

link banner
e-Learning

พยากรณ์อากาศ
 


  

   เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>
คำตอบจากหมอ! สาวร่ำไห้ถาม ทำไมผู้ชายชอบ "มีชู้" ตอนเมียตั้งท้อง ฟังเหตุผลยิ่งจุกอก  VIEW : 133    
โดย 99

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 666
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 20
Exp : 94%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 101.109.152.xxx

 
เมื่อ : เสาร์์ ที่ 8 เดือน มิถุนายน พ.ศ.2567 เวลา 13:06:23    ปักหมุดและแบ่งปัน

สาวท้องแก่ร่ำไห้ถาม ทำไมสามีชอบ "มีชู้" ตอนเมียตั้งครรภ์ เพิ่งรู้กระทบ "ลูก" มากกว่าที่คิด เสี่ยงคลอดก่อนกำหนด-พัฒนาการล่าช้า

Dr.Phan Chi Thanh ที่ปรึกษาด้านปัญหาทางเพศในสตรี โรงพยาบาลสูติศาสตร์กลาง กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ได้ให้คำปรึกษาแก่หญิงสาวตั้งครรภ์คนหนึ่ง ที่เพิ่งค้นพบว่าสามีของเธอแอบนอกใจ ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะเครียดและวิตกกังวลอยู่เสมอ อีกทั้งยังห่วงว่าสิ่งนี้จะส่งผลต่อทารกในครรภ์

ภรรยาเล่าว่า “ฉันท้องลูกคนที่สองได้ 7 เดือนแล้ว ปกติแล้วสามีของฉันเป็นใส่ใจครอบครัว รักภรรยาและลูกมาก แต่ล่าสุดฉันพบว่าสามีกำลังมีชู้ ฉันตกใจมาก ทนไม่ไหวจนกรีดร้องตะโกน ไม่สามารถยอมรับที่สามีเป็นแบบนั้นได้ โดยเฉพาะในช่วงทีภรรยาของเขากำลังตั้งท้อง ฉันช็อก คิดมาก และเครียด

ส่วนสามีเขาบอกว่าไม่เคยหยุดรักฉัน และในขณะเดียวกันก็ยอมรับเรื่องการมีชู้ บอกว่าเป็นเพียงการบรรเทาความต้องการทางร่างกายเท่านั้น ไม่ผูกพันทางอารมณ์ แน่นอนว่าฉันไม่เชื่อและไม่สามารถยอมรับคำอธิบายใดๆ จากสามีได้ ปัจจุบันฉันกับสามียังอยู่ในสงครามเย็น และตัวฉันเองก็เครียดและนอนไม่หลับ ฉันสงสัยว่าความเครียดเหล่านี้จะส่งผลต่อทารกหรือไม่? และฉันต้องทำอย่างไรในเวลานี้?”

ความเครียดและความตึงเครียดส่งผลร้ายแรงต่อมารดาและทารกในครรภ์

ในเรื่องนี้คุณหมอบอกว่า สถิติบางฉบับระบุว่าผู้ชายนอกใจขณะภรรยาตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรค่อนข้างสูง ดังที่สามีคนนี้กล่าวอ้างว่าการมีชู้ไม่ใช่การสูญเสียความรักต่อภรรยาหรือลูกๆ แต่เพียงเพื่อบรรเทาความต้องการทางร่างกาย อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้หญิงนี่เป็นเรื่องรุนแรงทางจิตใจอย่างมาก ผู้หญิงรู้สึกถูกทรยศ กังวลเกี่ยวกับอนาคตของตัวเองและลูกๆ อาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวลได้ การตกอยู่ในภาวะนี้อาจส่งผลต่อสุขภาพของทั้งมารดาที่ตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ด้วย

เมื่อเครียด สตรีมีครรภ์อาจมีอาการต่างๆ  เช่น เจ็บหน้าอก ปวดศีรษะ หายใจผิดปกติ ใจสั่น เหนื่อยล้า ระบบย่อยอาหารผิดปกติ การมองเห็นผิดปกติ และเพิ่มความเสี่ยงต่อความดันโลหิตสูง ไม่เพียงแค่นั้น อาการนี้ยังส่งผลต่อเส้นประสาทอีกด้วยทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ หลงลืม ขาดสมาธิเป็นต้น

โดยทั่วไปหญิงตั้งครรภ์มักจะมีอาการวิตกกังวลได้ง่าย และบางครั้งก็หงุดหงิดกับตัวเอง โกรธ และร้องไห้ง่ายขึ้น เพราะรู้สึกเหนื่อยล้ามาก สตรีมีครรภ์จำนวนมากมักต้องการปลีกตัวอยู่กับตัวเอง และหลีกเลี่ยงการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม

ที่อันตรายที่สุด ความเครียดยังเพิ่มความเสี่ยงของการคลอดก่อนกำหนด ในช่วงเดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์ และอาจทำให้เด็กมีพัฒนาการล่าช้า และความผิดปกติของการนอนหลับได้ง่าย เนื่องจากนาฬิกาชีวภาพของมารดาที่ตั้งครรภ์และทารกในครรภ์มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน หากแม่มีปัญหาการนอนหลับเนื่องจากความเครียดและวิตกกังวล ลูกก็จะนอนไม่หลับตามไปด้วย นอกจากนี้การนอนหลับของแม่ยังเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้ลูกมีโครงสร้างร่างกายที่สมบูรณ์http://svetjinak.net