[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.5
โรงเรียนวชิรานุกูล
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป  
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
เมนูหลัก
ฝากข้อความ
ชื่อ :
ข้อความ

Close
:) :D :(
:o :p ;)
:| x( :~
(ตัวแสดงอารมณ์)

link banner
e-Learning

พยากรณ์อากาศ
 


  

   เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>
พื้นที่ด้านล่างตากับการดูแลสุขภาพตา รู้จักกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา  VIEW : 279    
โดย alrigtjtjtj213

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 1
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 1
Exp : 20%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 103.40.190.xxx

 
เมื่อ : พุธ ที่ 30 เดือน สิงหาคม พ.ศ.2566 เวลา 10:56:30    ปักหมุดและแบ่งปัน

บริเวณใต้ตาคือพื้นที่ที่อยู่ด้านล่างของตา ซึ่งเป็นบริเวณที่มีความสำคัญในการดูแลสุขภาพตาและการปกป้องตาจากอันตรายภายนอก ใต้ตามีหลายส่วนที่สำคัญ ได้แก่ ชั้นผิวหนังใต้ตา (infraorbital skin) ที่ช่วยปกป้องกระดูกหุ้มโพรงจมูกและกระดูกหุ้มถุงจมูก ชั้นผิวหนังใต้ตายังเป็นบริเวณที่แสดงอารมณ์ของบุคคลได้อีกด้วย ไม่เพียงแค่การดูแลสุขภาพผิวหนังใต้ตา เรื่องการพับถุงใต้ตา (under-eye bags) และถุงใต้อืด (dark circles) ก็เป็นปัญหาร้ายๆ ที่ผู้คนส่วนใหญ่จะพบเจอ เนื่องจากสาเหตุหลักคือการสะสมของน้ำใต้ผิวหนังใต้ตา และการฟื้นฟูเซลล์ผิวที่ช้าลง

ดังนั้น การดูแลบริเวณใต้ตาเป็นสิ่งที่ควรให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้อุปกรณ์ที่ถูกต้องและเข้ากับสภาพผิวของแต่ละบุคคล โดยมีการดูแลทั้งจากด้านการบำรุงผิว การใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม และการป้องกันจากรังสี UV อีกด้วย การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นกระบวนการทางคอสเมติกที่ใช้สารฟิลเลอร์ซึ่งมีคุณสมบัติในการเติมเต็มและยืดหยุ่นผิวให้กระชับขึ้น โดยทั่วไปแล้ว ฟิลเลอร์ที่ใช้ในการฉีดบริเวณใต้ตาจะประกอบด้วยสารไฮยาโลรูนิค หรือไฮยาโลรูนิคแอสิด เป็นสารที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยมีจุดประสงค์หลักในการกระชับผิว แก้อาการถ่ายพยาธิที่อยู่ในข้างของผ่าตัด เพื่อให้ผู้ที่ได้รับการทำศัลยกรรมไม่แสดงอาการถ่ายพยาธินู่ข้าง

กระบวนการทำหัตถการจะใช้อุปกรณ์พันคุณ (cannula) เพื่อแทรกฟิลเลอร์ลงใต้ผิวหนัง โดยการฉีดจะเป็นไปตามแนวของเส้นรอบดวงตา ทำให้ผู้ที่ได้รับการฉีดไม่มีแผลสะเก็ดเลือดหรือบวมหลังจากการทำหัตถการ ผู้ที่สนใจทำกระบวนการฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตาควรพบแพทย์ผู้คุมประสิทธิภาพ (board-certified) และปรึกษาคำแนะนำจากแพทย์ก่อนการตัดสินใจ เพื่อป้องกันความเสี่ยงและได้ผลการรักษาที่เหมาะสม