ตอนนี้เข้าสู่ช่วง 50 เมตรสุดท้ายของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2022/2023 แล้ว สถานการณ์หลายๆ อย่างเริ่มเห็นชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในสัปดาห์นี้อาจจะได้บทสรุปของทีมที่จะเป็นแชมป์ หรือทีมท็อปโฟร์คว้าตั๋วไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ขณะเดียวกันในโซนหนีตกชั้นสถานการณ์ก็มันเข้มข้นไม่แพ้กัน ทั้ง น็อตติงแฮม ฟอเรสต์, เอฟเวอร์ตัน, ลีดส์ ยูไนเต็ด และ เลสเตอร์ ซิตี้ ต่างต้องเก็บชัยชนะในเกมของพวกเขาให้ได้ โดยในกรณีของ "เจ้าป่า" หากคว่ำ อาร์เซน่อล สำเร็จ พวกเขาจะการันตีการอยู่รอดในลีกสูงสุดทันที
1. แมนฯ ซิตี้ เตรียมคว้าแชมป์
ต้องยอมรับว่าการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ สนุกเข้มข้นเร้าใจผสมดราม่าด้วย เพราะใครจะไปคิดว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ตามหลัง อาร์เซน่อล มาตลอดเกือบทั้งซีซั่น สามารถพุ่งแรงแซง "ปืนใหญ่" ในช่วงโค้งสุดท้าย และตอนนี้ต้องบอกว่าโทรฟี่แชมป์อยู่ในมือข้างหนึ่งของ "เรือใบสีฟ้า" แล้ว และถ้าพวกเขาคว่ำ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ในเกมลีกวันอาทิตย์ที่ 21 พฤษภาคมนี้ ทุกอย่างก็ปิดจ็อบ ทีมของกุนซือเป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะผงาดคว้าแชมป์ทันที และเป็นแชมป์ลีกสมัยที่ 3 ติดต่อกัน และเป็นแชมป์สมัยที่ 5 ในรอบ 6 ฤดูกาลหลังสุด นอกจากนี้การได้แชมป์เร็วจะทำให้ แมนฯ ซิตี้ มีเวลาโฟกัสไปที่เกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ เอฟเอ คัพ ซึ่งพวกเขาเข้ารอบชิงเรียบร้อยแล้ว และงานนี้ เป๊ป แอนด์ โค. กำลังลุ้นสร้างประวัติศาสตร์ของสโมสรในการคว้าทริปเบิ้ลแชมป์ด้วย
2. ลิเวอร์พูล ต่อลมหายใจท็อปโฟร์, สั่งลา "บ็อบบี้"
ไม่ใช่แค่การลุ้นแชมป์อาจจบในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เพราะการลุ้นท็อปโฟร์ก็เช่นเดียวกัน โดย ลิเวอร์พูล จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคว่ำ แอสตัน วิลล่า เพราะนั่นเป็นการต่อลมหายใจในการลุ้นท็อปโฟร์จนกระทั่งสัปดาห์สุดท้าย จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้ "หงส์แดง" ดูเหมือนจะหมดลุ้นไปแล้วเมื่อ 2-3 เดือนที่แล้ว แต่จากการที่ฟอร์มของพวกเขาดันมาพีคในช่วงโค้งสุดท้าย ขณะที่ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฟอร์มหลุด ทำให้พวกเขากลับมามีโอกาส แต่สำหรับแมตช์วันเสาร์นี้ถ้าหากดันแพ้ "สิงห์ผงาด" และ แมนฯ ยูฯ คว่ำ บอร์นมัธ ทุกอย่างก็จบสิ้น งานนี้เชื่อได้เลยว่าบรรดาแฟนผีโปรเจกต์ตัวจริง และตัวปลอม คงเตรียมสวมบทกองแช่งเต็มที่ ลองนึกภาพหาก "เดอะ เร้ดส์" ไม่ได้ไปเล่นถ้วย "หูกาง" สาวก "เดอะ ค็อป" คงโดนล้อเต็มสูบในโลกโซเชียลแหงๆ !!!
3. เอฟเวอร์ตัน, ลีดส์, เลสเตอร์ สู้เพื่อความอยู่รอด
การลุ้นแชมป์กับท็อปโฟร์ว่าสนุกแล้ว การลุ้นหนีตกชั้นก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน โดยตอนนี้โควตาแรกที่ได้ตั๋วกลับสู่เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ไปแล้วนั่นก็คือ เซาธ์แฮมป์ตัน ฉะนั้นเหลือพื้นที่อีก 2 ตำแหน่งซึ่งไม่มีทีมไหนอยากได้ ขณะที่ "เจ้าป่า" น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ถ้าหากชนะ อาร์เซน่อล ในเกมวันเสาร์นี้พวกเขาจะรอดตกชั้นทันที ด้วยเหตุนี้ 3 ทีมที่ดูค่อนข้างร่อแร่ทั้ง เลสเตอร์ ซิตี้, ลีดส์ ยูไนเต็ด และ เอฟเวอร์ตัน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคว้าชัยชนะในแมตช์ที่ลงเล่นให้ได้ เพื่อที่จะได้ไปลุ้นในเกมสุดท้ายของซีซั่น แต่ถ้าเกิดทีมใดทีมหนึ่งสะดุดบอกเลยว่าเตรียมเก็บเสื้อผ้าโบกมือลาลีกสูงสุดเมืองผู้ดีแหงๆ
4. แมตช์สุดท้ายในแอนฟิลด์ของ "บ็อบบี้"
การรับมือ แอสตัน วิลล่า ไม่ใช่แค่การลุ้นโอกาสติดท็อปโฟร์เท่านั้น แต่ยังเป็นเหมือนเกมสำหรับสั่งลา โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ในการเล่นที่แอนฟิลด์ แมตช์สุดท้าย หลังจากที่มีการยืนยันแล้วว่า "บ็อบบี้" จะอำลาสโมสรหลังจบฤดูกาลนี้ ดาวเตะชาวบราซิเลียน ย้ายจาก ฮอฟเฟ่นไฮม์ มาร่วมทีมในปี 2015 โดยเป็นแกนหลักในการนำ "หงส์แดง" กวาดแชมป์มากมายทั้ง พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ, คาราบาวคัพ, คอมมิวนิตี้ ชิลด์, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ พร้อมทั้งตะบันไปถึง 109 จากการเล่น 360 แมตช์ในทุกรายการให้กับสโมสร เชื่อว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ คงส่ง ฟีร์มีโน่ ลงเล่นในเกมนี้ เพื่อให้เขาได้สั่งลาสาวก "เดอะ ค็อป" ต่อหน้าสนามเหย้าที่ยิ่งใหญ่ของสโมสรซึ่งต้องบอกเลยว่าคงเต็มไปด้วยอารมณ์สุดๆ แน่นอน
5. นำตลอดแต่ตกม้าตายโค้งสุดท้าย
แฟนบอลอาร์เซน่อล คงยังรู้สึกช็อกไม่หายที่ต้องเห็นทีมรักของพวกเขากำลังจะชวดแชป์พรีเมียร์ลีก สมัยแรกในรอบเกือบ 20 ปี ทั้งที่นำเป็นจ่าฝูงมาเกือบตลอดทั้งฤดูกาล แต่ดันมาพลาดในช่วงโค้งสุดท้าย ทำให้ตอนนี้พวกเขาต้องเตรียมเช็ดน้ำตาเมื่อต้องยืนมองตาปริบๆ ที่เห็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ไปครอง ต้องยอมรับว่ามันช่างเป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวดจริงๆ สำหรับสาวก "เดอะ กันเนอร์ส" เพราะจากสถิติระบุว่าพวกเขาจ่าฝูงถึง 93 เปอร์เซ็นต์จากจำนวนเกมลีกทั้งหมดของฤดูกาล 2022-23 แต่ดันมาตกม้าตายในช่วงไม่กี่เดือนก่อนปิดซีซั่น ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สาวกพันธุ์แท้ "ปืนโต" ยังรับไม่ได้ แต่ถ้ามองในแง่บวกอย่างน้อยแม้ไม่ได้แชมป์แต่ก็ได้กลับไปเล่นในแชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งแรกในรอบ 7 ปี
|