[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.5
โรงเรียนวชิรานุกูล
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป  
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
เมนูหลัก
ฝากข้อความ
ชื่อ :
ข้อความ

Close
:) :D :(
:o :p ;)
:| x( :~
(ตัวแสดงอารมณ์)

link banner
e-Learning

พยากรณ์อากาศ
 


  

   เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>
กรมอนามัย ห่วงวัยศึกษา ‘อ้วน-เตี้ย’เพิ่ม แนะสถานศึกษาจัดชุดมื้อกลางวัน สร้างโภชนาการดี  VIEW : 369    
โดย ang

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 11
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 2
Exp : 75%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 27.130.125.xxx

 
เมื่อ : พฤหัสบดี ที่ 16 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 เวลา 20:08:31    ปักหมุดและแบ่งปัน

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยสภาวะโภชนาการของเด็กอายุ 6 -14 ปี มีสภาวะเริ่มอ้วน และก็ อ้วน เตี้ย มากขึ้นถึงปริมาณร้อยละ 12.4 แนะแนวทางจัดชุดอาหารมื้อกลางวันที่สมควร หมุนวน 5 วันต่ออาทิตย์ ช่วยสร้างเสริมการเติบโตแล้วก็ปรับปรุงปัญญาได้เต็มประสิทธิภาพแพทย์ทองชัย วัฒนายิ่งเจริญก้าวหน้าชัย อธิบดีกรมอนามัย พูดว่า จากเหตุการณ์สภาวะโภชนาการของเด็กอายุ 6 -14 ปี ช่วงวันที่ 31 เดือนพฤษภาคม 2564 พบว่า เด็กสูงดีได้ส่วนสัด และก็ภาวการณ์ผอมบางมีลักษณะท่าทางที่ดียิ่งขึ้น พูดอีกนัยหนึ่ง สูงดีได้ส่วน จำนวนร้อยละ 65.5 โดยมีเป้าหมาย ปริมาณร้อยละ 66 มีภาวการณ์ซูบผอม จำนวนร้อยละ 3.6 โดยมีเป้าหมาย ไม่เกินปริมาณร้อยละ 5 แต่ว่าพบว่ามีสภาวะเริ่มอ้วน และก็อ้วน เตี้ย มากขึ้นถึง จำนวนร้อยละ 12.4 ซึ่งการช่วยสนับสนุนให้เด็กได้รับของกินและก็โภชนาการที่สมควรเป็นสิ่งจำเป็นที่สามารถช่วยสร้างเสริมการเติบโตและก็ปรับปรุงปัญญาได้เต็มความสามารถ ควรจะจัดของกินเวียนเป็นทุกเดือนหรือรายสัปดาห์ เพื่อผู้เรียนได้รับของกินที่นานาประการในรูปร่าง ที่สมควร ปรุงปรุงอาหารเพื่อลดหวาน มัน เค็ม ไม่ใช้ผงชูรสสำหรับในการทำกับข้าว ซึ่งการจัดชุดข้าวกลางวันที่สมควรสำหรับเด็กนักเรียนควรจะเวียน 5 วันทำการต่ออาทิตย์ ตามมาตรฐานอาหารมื้อกลางวันสำหรับผู้เรียนไทย ซึ่งมี ข้าว รวมทั้งอาหารไม่น้อยกว่า 4 ครั้งต่ออาทิตย์ อาหารจานเดียว ไม่สมควรเกิน 1 ครั้งต่ออาทิตย์ ผลไม้ทุกๆวันไหมน้อยกว่า 3 ครั้งต่ออาทิตย์ ของหวานไม่สมควรเกิน 2 ครั้งต่ออาทิตย์ ปลาหรือสินค้าจากปลาขั้นต่ำ 1 ครั้งต่ออาทิตย์ เนื้อสัตว์ เป็นต้นว่า ไก่ หมู เนื้อ หรือสินค้าจากเนื้อสัตว์อย่างต่ำ 2 ครั้งต่ออาทิตย์ ไข่ 2-3 ฟองต่อคนต่ออาทิตย์ ตับ เลือด ปลาเล็กปลาน้อยที่กินได้อีกทั้งก้าง อย่างละ 1 ครั้งต่ออาทิตย์ ถั่วเม็ดแห้ง เผือกมันอย่างละ 1 ครั้งต่ออาทิตย์ โดยการผลิตการมีส่วนร่วมกับเด็กให้เด็กได้เลือก รายการอาหารที่รู้สึกชื่นชอบ ผักที่ชอบใจ อาจารย์ปรับรายการอาหารให้ได้ถูกตามหลักโภชนาการ

“ดังนี้ นอกเหนือจากจัดเมนูอาหารเวียนเพื่อเด็กนักเรียนได้ทานอาหารที่มากมายแล้ว จำนวนของกินที่ผู้เรียนควรจะได้รับในมื้อกลางวันก็สำคัญเช่นเดียวกัน โดย กรุ๊ปข้าว-แป้ง เด็กระดับอนุบาล (อายุ 3-5 ปี) ควรจะได้รับ 1.5 ทัพพี ระดับประถมปีที่ 1-3 (อายุ 6-8 ปี) 2 ทัพพี ระดับประถมปีที่ 4-6 (อายุ 9-12 ปี) 3 ทัพพี ส่วนเนื้อสัตว์เด็กระดับอนุบาล (อายุ 3-5ปี) ควรจะได้รับ 1.5 ช้อนรับประทานข้าว ระดับประถมปีที่ 1-3 (อายุ 6-8 ปี) 2 ช้อนรับประทานข้าว ระดับประถมปีที่ 4-6 (อายุ 9-12 ปี) 2 ช้อนรับประทานข้าว ยิ่งกว่านั้นเด็กนักเรียน ควรจะได้รับผัก 1 ทัพพี ผลไม้ 1 ส่วน แล้วก็นม 1 แก้ว เพื่อเด็กเติบโตเหมาะสมกับวัย” หมอกาญจน์ชัย กล่าว

อธิบดีกรมอนามัย รายงานในส่วนท้ายว่า ถ้าหากเป็นอาหารจานเดียวหากรายการอาหารที่เป็นผัดด้วยน้ำมันจำเป็นต้องจัดคู่กับผลไม้ อาหารหวานที่เป็นน้ำกะทิไม่สมควรจัดคู่กับของกินที่เป็นของกินมัน เนื้อสัตว์ให้ในจำนวนที่พอเพียงรวมทั้งเป็นเนื้อย่อยง่ายสลับหมุนวนกัน โดยมีผักเป็นองค์ประกอบในของกินทุกมื้อ ใช้เกลือหรือน้ำปลาผสมไอโอดีนสำหรับเพื่อการทำกับข้าว ของหวานชนิดขนมปังที่มีไส้ ควรที่จะทำการเลือกไส้ที่มีเนื้อสัตว์ ตัวอย่างเช่น ขนมปังไส้ไก่หยอง ขนมไทยโบราณ ควรที่จะทำการเลือกของหวานที่มีส่วนประกอบของถั่วต่างๆยกตัวอย่างเช่น ของหวานถั่วแปบ ถั่วเขียวต้มน้ำตาล ซึ่งเด็กนักเรียนควรจะทานอาหารให้ครบทั้งยัง 3 มื้อ เช้าตรู่ ช่วงเวลากลางวัน เย็น แต่ว่ามื้อเช้าตรู่สำคัญที่สุด เนื่องจากจะก่อให้เด็กมีสมาธิสำหรับเพื่อการเรียน รวมทั้งควรจะจัดของหวาน รุ่งเช้ารวมทั้งบ่าย เพื่อเสริมโภชนาการจากของกินมื้อหลัก ซึ่งจำนวนสารอาหารที่เด็กควรได้รับในทุกวัน เด็กนักเรียนอายุ 6-8 ปี ควรจะได้รับพลังงานวันละ 1,400 กิโลแคลอรี่ เด็กอายุ 9-12 ปี ควรจะได้รับพลังงานขั้นต่ำ 1,700 กิโลแคลอรี่ หี