ลูกติดหน้าจอ ยุคนี้อะไร ๆ ก็ออนไลน์ สื่อต่าง ๆ ก็อยู่ในรูปแบบสื่อออนไลน์เยอะ หาง่าย เข้าถึงง่าย จนบ้างกันอาจเป็นปัญหาให้เด็กติดสื่อ หรือเกมออนไลน์ได้ง่าย
แก้ปัญหา ลูกติดหน้าจอ
อย่าปล่อยให้ลูกเล่นมือถือตามลำพัง
ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ มือถือ หรือแท็บเล็ต พ่อแม่ควรเล่นร่วมกับลูก พร้อมตั้งข้อสังเกตว่ามีผลอย่างไรถูกต้องหรือเหมาะสมหรือไม่? หากสิ่งที่ดูไม่เหมาะสม ควรแนะนำลูกทันที เพราะบางครั้งเด็กอาจจะยังแยกไม่ออกว่าอะไรดี อะไรไม่ดี ก็เป็นการป้องกันพฤติกรรมเลียนแบบอีกทางหนึ่งในอนาคต
ทำกิจกรรมอื่นๆ
ส่งเสริมให้ลูกทำกิจกรรมอื่นนอกเหนือจากการนั่งนิ่งๆ อยู่หน้าจอ มันดีมาก ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย ทำสวน หรือกิจกรรมที่สามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน นอกจากจะทำให้ลูกมีสุขภาพแข็งแรงแล้ว การที่เด็กทำกิจกรรมอื่นบ้างจะทำให้เขาไม่กลัวการเข้าสังคม
กำหนดเวลาเล่นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไม่เกิน 1–2 ชั่วโมงต่อวัน
ควรกำหนดระยะเวลาการเล่นให้ชัดเจน ว่าจะปล่อยให้เด็กเล่นในช่วงใด ควรจำกัดเวลา ไม่เกิน 1 ชั่วโมงต่อวัน สำหรับวันธรรมดาและวันหยุดอาจเพิ่มได้สูงสุด 2 ชั่วโมงต่อวัน
พ่อแม่ควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก
สมัยนี้ทำงานผ่านมือถือได้ หรือแท็บเล็ตแต่เมื่อกลับถึงบ้านพร้อมกับลูกเมื่อทำงานเสร็จแล้ว พ่อแม่ควรวางสายโทรศัพท์ทันที เพราะบางครั้งเด็กไม่สามารถแยกจากผู้ปกครองได้เพียงแค่เล่นโทรศัพท์มือถือหรือกำลังทำงาน จนทำให้เด็กคิดว่าการเล่นมือถือตลอดเวลาเป็นเรื่องปกติ
ผลเสียต่อสุขภาพ จากการติดหน้าจอ
-
จอประสาทตาเสื่อม แสงสีฟ้าจากจอ สามารถทำลายจอประสาทตา จนทำให้เป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมได้
-
สมาธิสั้น หงุดหงิด โมโหง่าย เด็กที่ติดสมาร์ทโฟน หรือแท็บเลต มักมีความอดทนต่ำ ใจร้อน ไม่รู้จักการรอคอย อาจทำให้เด็ก แสดงพฤติกรรมที่ก้าวร้าวได้
-
ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง มีปัญหาด้านอารมณ์ ไม่ค่อยเข้าสังคม
-
มีปัญหาการนอน เพราะแสงสีฟ้าจากเครื่องมือสื่อสาร ส่งผลต่อการหลั่งเมลาโทนิน ทำให้เกิดการนอนไม่หลับได้
ติดตาม สาระน่ารู้ เพิ่มเติมจาก โรงเรียนบ้านเกาะพลวย
|