[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.5
โรงเรียนวชิรานุกูล
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป  
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
เมนูหลัก
ฝากข้อความ
ชื่อ :
ข้อความ

Close
:) :D :(
:o :p ;)
:| x( :~
(ตัวแสดงอารมณ์)

link banner
e-Learning

พยากรณ์อากาศ
 


  

   เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>
แกร่ง ทุกมิติ  VIEW : 649    
โดย ริคาร์โด้

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 2
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 1
Exp : 40%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 171.99.154.xxx

 
เมื่อ : เสาร์์ ที่ 23 เดือน กรกฏาคม พ.ศ.2565 เวลา 17:36:55    ปักหมุดและแบ่งปัน




แกร่ง ทุกมิติ


8 แง่มุมที่การฝึกกล้ามเนื้อท้องจะทำให้ชีวิตของคุณดีขึ้น


ความฝันในการมีซิกแพ็ค


ขึ้นเป็นลูกระนาตอาจเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้คุณยอมอดทนฝึกท่า Situp และ Piank อย่างไม่มีที่สิ้นสุดแต่รู้หรือไม่ว่าระหว่างทางที่จะไปถึงจุดนั้น คุณจะได้รับประโยชน์อันเอกอุที่คาดไม่ถึงและนี่คือเหตุผลแปดข้อว่าทำไมคุณจึงต้องมุ่งมั่นฝึกกล้ามเนื้อท้องให้ดีเข้าไว้


1 เก่งทุกกีฬา


การฝึกกล้ามเนื้อแกนกลางจะทำให้คุณมีสมรรถภาพที่ดีขึ้นในการเล่นกีฬาเกือบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นเกมที่เน้นพละกำลังหรือความเร็ว ตามคำกล่าวของ ดร.สจวร์ต แมคกิลล์ ศาสตราจารย์ด้านชีวกลศาสตร์กระดูกสันหลังจากมหาวิทยาลัยวอเตอร์ลู เหตุผลก็เพราะแกนกลางที่แข็งแรงจะช่วยให้คุณส่งผ่านพลังไปสู่แขนและขาได้มากกว่า จึงทำให้คุณออกหมัดได้หนักขึ้น มีช่วงก้าวที่ยาวขึ้นและเตะลูกบอลได้อย่างทรงพลัง


2 เพิ่มสมดุล


"ทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหว แกนกลางที่แข็งแรงจะทำให้ลำตัวของคุณอยู่ในตำแหน่งที่มั่นคงกว่า ไม่ว่าคุณจะเล่นกี่ฬาหรือทำงานบ้าน"นพ.เจ. คริสโตเฟอร์ เมนด์เลอร์แพทย์ด้านเวชศาสตร์การกีฬา กล่าว

มันจะช่วยให้คุณห่างไกลจากอาการบาดเจ็บและเคลื่อนไหวได้อย่างเต็มศักยภาพมากขึ้น ทดสอบสมดุลของคุณง่ายๆ โดยการยืนด้วยขาข้างเดียวแล้วกางแขนออก หากคุณสามารถยืนได้นานกว่า 60 วินาทีถือว่าสอบผ่าน


3 พิชิตอาการปวดหลัง


งานวิจัยจากแคนาดาพบว่าการฝึกกล้ามเนื้อแกนกลางสามารถป้องกันและควบคุมอาการปวดหลังส่วนล่างได้ หากมีปัญหาบริเวณหลัง ท่าฝึกแกนกลางที่คุณควรทำคือท่าประเภทที่ต้องเกร็งตัวค้างไว้ (อย่างเช่น Side Plank) มากกว่าท่าที่คุณจะต้องเคลื่อนไหวแนวสันหลังอย่างเต็มที่ (ท่าประเภท Situp) นอกจากนั้น Bird Dog และ Curlup ยังถือเป็นท่าทางเลือกที่ดีมากๆ เช่นกัน


4 ยืนอย่างสูงสง่า


การฝึกแกนกลางโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการฝึกพิลาทีสสามารถช่วยให้คุณยืนตัวตรงขึ้น งานศึกษาจาก Isokinetics and Exercise Science พบว่าผู้ชายที่ฝึกพิลาทีสนานครั้งละ 3 ชั่วโมง

สัปดาห์ละครั้งและต่อเนื่อง 8 สัปดาห์จะมีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในการทดสอบยืนทรงตัว


5 เต็มพลังกับพาวเวอร์แร็ค


กล้ามเนื้อแกนกลางที่ถูกละเลยย่อมไม่ต่างอะไรกับไม้อัดแผ่นบางทว่าแกนกลางที่แข็งแรงก็เปรียบได้กับโครงเหล็กเสริมคอนกรีตที่มีฐานอันมั่นคง คุณจึงฝึกได้หนักขึ้น "การออกแรงร่วมของกล้ามเนื้อแกนกลางตลอดช่วงการฝึกท่า Squat หรือ Bench Press จะช่วยเพิ่มพลังในการยกให้คุณ พร้อมไปกับปกป้องแนวหลังส่วนล่างด้วย" ลิซา เอเดอบอร์ผู้ฝึกสอนนักกีฬาอาชีพ กล่าวเริ่มโปรแกรมเวิร์กเอาต์ทำหนักๆของคุณด้วยการฝึกกล้ามเนื้อแกนกลาง (อ่านคอลัมน์ซิกแพ็คด่วนๆ ใน 10 นาที หน้า 41)



6 ว่องไวดุจนินจา


การฝึกกล้ามเนื้อแกนกลางด้วยท่าที่คุณต้องอยู่ในภาวะขาดสมดุลอย่างเช่น ฝึกด้วย TRX หรือฝึกด้วยขาเพียงข้างเดียว จะช่วยให้คุณปราดเปรียวขึ้น งานวิจัยจากวารสาร Kinesiology พบว่าผู้ชายที่ฝึกด้วยวิธีดังกล่าวสามารถทำแบบทดสอบ Hexagon Agility ได้ดีกว่ากลุ่มที่ฝึกด้วยเวตทั่วไป คุณเองก็ทดสอบได้โดยใช้เทปกาวแปะบนพื้นเป็นรูปหกเหลี่ยมความยาวด้านละ 24 นิ้วและทำมุมประมาณ 120 องศาจากนั้นแปะเทปกาวความยาว 12 นิ้ว ไว้ตรงกลางเพื่อใช้เป็นจุดเริ่มต้นจับเวลาและเริ่มทดสอบด้วยการกระโดดขาคู่ไปที่มุมของรูปหกเหลี่ยมแล้วกระโดดกลับมาจุดกึ่งกลางกระโดดกลับไปมาตามเข็มนาฬิกาจนครบรอบทั้งหมด 12 ครั้ง ทำซ้ำโดยการกระโดดทวนเข็มนาฬิกาบ้างในการทดสอบนี้คุณควรทำเวลาในแต่ละรอบได้เท่าๆ กัน หากผลที่ได้ไม่เป็นตามนั้น คุณก็ต้องเน้นฝึกด้านที่เป็นจุดอ่อน

ทดลองเล่นบาคาร่าออนไลน์ฟรี


7 จำกัดอาการอักเสบ


เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ของการฝึกกล้ามเนื้อแกนกลางที่มีต่ออาการอักเสบนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการเปรียบเทียบงานวิจัยแปดฉบับและพบว่าการฝึกนี้มีผลต่ออาการอักเสบที่ลดลงถึง 25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับการใช้ยาสแตติน สรุปก็คือการฝึกกล้ามเนื้อแกนกลางอาจส่งผลไปถึงการเร่งอัตราการพักฟื้น ความรู้สึกที่แข็งแรงและสุขภาพโดยรวม


8 แข็งแรงยันแก่


การมีชิกแพ็คสามารถช่วยยืดระยะเวลาที่คุณจะลาจากโลกนี้ได้ ข้อสรุปที่ได้จากกลุ่มนักวิจัยของมาโยคลินิกซึ่งทำการศึกษาชิ้นงาน 11 ฉบับอ้างอิงกับขนาดของรอบเอว ชี้ให้เห็นว่าผู้ชายที่มีขนาดรอบเอวมากกว่า 43 นิ้ว มีโอกาสเสี่ยงที่จะเสียชีวิตก่อนวัยอันควรมากกว่า 52 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับกลุ่มที่มีขนาดรอบเอว 35 นิ้วหรือเล็กกว่า โดยทุกๆ 2 นิ้ว ที่เพิ่มขึ้นของรอบเอวส่งผลให้เกิดความเสี่ยงดังกล่าวถึง 7 เปอร์เซ็นต์