[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.5
โรงเรียนวชิรานุกูล
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป  
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
เมนูหลัก
ฝากข้อความ
ชื่อ :
ข้อความ

Close
:) :D :(
:o :p ;)
:| x( :~
(ตัวแสดงอารมณ์)

link banner
e-Learning

พยากรณ์อากาศ
 


  

   เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>
สาวปวดท้องเมนส์ ทรมานมา 20 ปี ล่าสุดแค่เลิกกินสิ่งนี้ อึ้งหายเป็นปลิดทิ้ง!  VIEW : 195    
โดย 99

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 666
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 20
Exp : 94%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 104.28.214.xxx

 
เมื่อ : จันทร์ ที่ 29 เดือน เมษายน พ.ศ.2567 เวลา 21:33:26    ปักหมุดและแบ่งปัน

ก่อนหน้านี้ได้ลองวิธีรักษาแบบพื้นบ้านมาทุกชนิด ทั้งการปรับสภาพด้วยการแพทย์แผนจีน การเลิกดื่มน้ำแข็ง การประคบร้อน1 สัปดาห์ก่อนมีประจำเดือน การใช้น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส ฯลฯ แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น จนถึงกับพูดติดตลกว่า คงหายปวดประจำเดือนก็ต่อเมื่อท้องเท่านั้น

จนกระทั่งปีที่แล้ว เธอตัดสินใจลดน้ำหนักและเริ่มควบคุมอาหาร ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วคือทานคาร์โบไฮเดรตต่ำ ดื่มน้ำมากขึ้นงดน้ำอัดลม และที่สำคัญที่สุดคือ "ไม่กินผลิตภัณฑ์จากนมใดๆ" ในช่วงเดือนนั้นเธอดื่มน้ำเย็นแทบทุกวัน แต่เมื่อประจำเดือนมากลับไม่เจ็บปวดอีกต่อไป เหมือนอย่างปาฏิหาริย์!!!

ผลก็คือ หลังจากสังเกตร่างกายของตัวเองได้ 2-3 เดือน เธอจึงพบว่าอาการปวดประจำเดือนก่อนหน้านี้มีสาเหตุมาจาก “นมวัว” ตราบใดที่ไม่ได้สัมผัสผลิตภัณฑ์จากนมวัว ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใด แม้จะดื่มน้ำที่ใส่น้ำแข็งก็ยังไม่ปวดท้องสรุปคือ ปัญหาที่เธอเผชิญมาตลอด 20 ปี ได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว

"เดิมทีฉันชอบดื่มชานมและลาเต้ แต่เนื่องจากการลดน้ำหนัก ฉันจึงเลิกดื่มเมนูโปรดเหล่านี้ ไม่ได้คาดหวังว่าชีวิตฉันจะเปลี่ยนไป! ฉันไม่ปวดประจำเดือนอีกต่อไป! ไม่กินนม ไม่กินผลิตภัณฑ์จากนม ไม่กินชีส แต่ชานมครีมเทียมและเครื่องดื่มน้ำแข็งก็โอเค"

อย่างไรก็ดี เธอยอมรับว่ายังคงสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน ว่าการดื่มนมวัวเกี่ยวเนื่องกับอาการปวดท้องประจำเดือนหรือไม่ "ฉันค้นหาทางออนไลน์แล้วพบว่าแทบไม่มีการกล่าวอ้างที่เกี่ยวข้องเลย แต่เคยได้ยินว่าเป็นเพราะนมมีฮอร์โมนมากเกินไปหรือทำให้เกิดอาการอักเสบได้ง่าย ใครที่เชี่ยวชาญและสามารถให้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ได้บ้าง ?”http://321ruay.com