[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.5
โรงเรียนวชิรานุกูล
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป  
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
เมนูหลัก
ฝากข้อความ
ชื่อ :
ข้อความ

Close
:) :D :(
:o :p ;)
:| x( :~
(ตัวแสดงอารมณ์)

link banner
e-Learning

พยากรณ์อากาศ
 


  

   เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>
สื่ออังกฤษยัน การเทคโอเวอร์ แมนฯ ยูไนเต็ด ประสบกับปัญหาคาราคาซังมานาน  VIEW : 228    
โดย F

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 24
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 3
Exp : 100%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 194.5.82.xxx

 
เมื่อ : พฤหัสบดี ที่ 10 เดือน สิงหาคม พ.ศ.2566 เวลา 10:23:47    ปักหมุดและแบ่งปัน



สื่ออังกฤษยัน การเทคโอเวอร์ แมนฯ ยูไนเต็ด ประสบกับปัญหาคาราคาซังมานานเนื่องจากสมาชิกตระกูลเกลเซอร์ยังมีความเห็นที่แย้งกันอยู่
แมนฯ ยูไนเต็ด ถูกประกาศขายตั้งแต่เดือนพ.ย. และเท่าที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้มีสองมหาเศรษฐียื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการติดต่อขอซื้อ แต่ทั้ง ชีคห์ ยาสซิม แห่ง กาตาร์ และ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ ผู้มั่งคั่งชาวเมืองผู้ดีซึ่งเป็นกองเชียร์ เร้ด อาร์มี่ ต่างก็ยังไม่ได้รับการชี้ขาดว่าใครจะได้เป็นเจ้าของสโมสรคนใหม่
ต่อกรณีดังกล่าว มิเรอร์ เผยเมื่อ 22 ก.ค. ว่า เอริค เทน ฮาก กุนซือทีม ผีแดง ได้พบกับ อาฟราม เกลเซอร์ แล้วในช่วงที่สโมสรบินมาเก็บตัวปรีซีซั่นที่ นิว เจอร์ซีย์ และมีการพูดคุยกันถึงการเทคโอเวอร์ด้วย
พร้อมกันนี้ ตระกูลเกลเซอร์เข้าชมเกมอุ่นเกือกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาซึ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ปะทะกับ อาร์เซน่อล ทีมร่วม พรีเมียร์ลีก ที่สนาม เมตไลฟ์ สเตเดี้ยม เช่นกัน แต่สำหรับปัญหาการเทคโอเวอร์ สื่อเจ้าดังกล่าวระบุว่าถึงขณะนี้สมาชิกตระกูลเกลเซอร์แตกความต้องการออกเป็นสองขั้วว่าจะขายสโมสรหรือไม่ขาย
มิเรอร์ ยืนยันว่า อาฟราม กับ โจเอล ยังต้องการมีส่วนคอนโทรลการก้าวเดินของสโมสรจึงส่งผลให้การขายทีม ผีแดง ล่าช้ามาจนถึงขณะนี้ ขณะที่สมาชิกอีกสี่รายของตระกูลซึ่งมีหุ้นของสโมสรเช่นกันทั้ง ไบรอัน , ดาร์ซี่ , เอ็ดเวิร์ด และ เควิน ล้วนแสดงความต้องการขายหุ้นทิ้ง
ทั้งนี้ ดิ แอธเลติก เคยรายงานเมื่อเดือนเม.ย.ว่า โจเอล กับ ดาร์ซี่ ถือครองหุ้นของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในสัดส่วนที่มากที่สุด 19.11 และ 18.15% ตามลำดับ


สนับสนุนโดยเว็บไซต์ Ufa