[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.5
โรงเรียนวชิรานุกูล
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป  
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
เมนูหลัก
ฝากข้อความ
ชื่อ :
ข้อความ

Close
:) :D :(
:o :p ;)
:| x( :~
(ตัวแสดงอารมณ์)

link banner
e-Learning

พยากรณ์อากาศ
 


  

   เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>
เพิ่งรู้เลย! สีของรอยฟกช้ำ บอกช่วงเวลาเกิดเหตุได้ "หมอแล็บ" เทียบให้ดูชัดๆ แบบเห็นภาพ  VIEW : 245    
โดย 99

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 666
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 20
Exp : 94%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 149.28.146.xxx

 
เมื่อ : อังคาร ที่ 8 เดือน สิงหาคม พ.ศ.2566 เวลา 14:10:40    ปักหมุดและแบ่งปัน

วันที่ 8 สิงหาคม 2566 ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ชื่อดัง ได้โพสต์ผ่านเพจเฟสบุ๊ก หมอแล็บแพนด้า ให้ความรู้เรื่อง สีของรอยฟกช้ำต่างกันยังไง? พร้อมทำภาพเปรียบเทียบมาให้เห็นชัดๆ

โดยระบุว่า รอยฟกช้ำ เป็นรอยที่เกิดจากการกระแทก หรือการบาดเจ็บ เช่น โต๊ะเก้าอี้มันอยู่ดีๆก็ไปปะทะมัน สะดุดล้ม เล่นกีฬาแล้วกระทบกระทั่งกัน บางคนก็ถูกเมียตีเพราะไปซื้อของเล่นที่ตะพานเหล็ก 55555 ทำให้เส้นหลอดเลือดฝอยที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนังแตก พอหลอดเลือดฝอยแตกออก เลือดสีแดงสดก็จะไหลไปคั่งรวมกันอยู่ในบริเวณที่บาดเจ็บ และไม่มีทางระบายออกไปที่ไหนได้

เราสามารถรู้เวลาคร่าวๆได้เลย ว่ารอยช้ำเกิดขึ้นตอนไหน หรือโดนดูดคอมาเมื่อไหร่ 5555 เพราะหลังเกิดการบาดเจ็บปุ๊บ ตอนแรกๆ เลือดยังมีออกซิเจนอยู่มันจะมีสีแดงหรือชมพู พอเวลาเวลาผ่านไปประมาณ 1-5 วัน ฮีโมโกลบินจากเซลล์เม็ดเลือดแดงหลั่งธาตุเหล็กออกมา รอยฟกช้ำก็จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน ม่วง หรือดำ

ต่อมาประมาณวันที่ 5-10 ฮีโมโกลบินถูกทำให้กลายเป็นบิลิเวอร์ดิน เราก็จะมองเห็นผิวหนังบริเวณที่บาดเจ็บเริ่มมีสีเขียวๆเหลืองๆ และสุดท้าย ประมาณวันที่ 10-14 บิลิเวอร์ดินก็จะถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นสารที่ชื่อว่า บิลิรูบินซึ่งมีสีเหลือง

พอรอยฟกช้ำเป็นสีเหลือง แสดงว่ารอยช้ำใกล้จะหายแล้วล่ะครับ แล้วร่างกายมันก็จะดูดซึมบิลิรูบินตัวนี้กลับเข้าสู่กระแสเลือดและไปกรองโดยตับและไตต่อไป

พร้อมทั้งทิ้งท้ายไว้อย่างคมคายว่า "ช้ำกายอาจรู้เวลาหาย แต่ช้ำใจนานแค่ไหนจะหายสักที ช้ำคือเรา"http://sanjacintorecords.com